ม็อบคณะราษฎร์ เดินทางไปยัง รัฐสภา

ม็อบคณะราษฎร์ จากกรณีของวันที่ 17  พฤศจิกายนที่ผ่านมา เป็นการประชุมรัฐสภาเพื่อร่างรัฐธรรมนูญและแก้ไขรัฐธรรมนูญ จากกรณีที่เกิดขึ้นทำให้กลุ่มของม็อบคณะราษฎร์ และอีกกลุ่มของม็อบเสื้อเหลืองได้มีการเดินทางไปที่รัฐสภาเพื่อยื่นข้อเสนอ ทั้งสองฝ่ายก็มีการยื่นข้อเสนอที่แตกต่างกัน คณะราษฎร์ได้มีการยื่นข้อเสนอเกี่ยวกับการแก้ไข เกี่ยวกับการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์แต่สำหรับคุมม็อบเสื้อเหลือง

กลุ่มที่แทนตัวเองว่าต้องการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์เมื่อมีการเผชิญหน้ากันที่รัฐสภา จึงทำให้เกิดการจลาจลเกิดขึ้น มีการเกิดการปะทะกันระหว่างการชุมนุม ซึ่งถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ไม่คาดคิดเพราะความเหลื่อมล้ำของการทำงานของรัฐบาล นั่นก็คือคณะตำรวจได้มีการปล่อยให้

ม็อบเสื้อเหลืองทำการชุมนุมได้แต่เมื่อ ม็อบคณะราษฎร์ ได้เดินทางมา ได้มี สลายการชุมนุมเช่นการฉีดน้ำ

การใช้แก๊สน้ำตา ซึ่งเป็นการปฏิบัติที่แตกต่างกันกับอีกกลุ่มหนึ่งจึงทำให้เกิดความไม่พอใจ ก็มีการเกิดการปะทะกันเกิดขึ้นแต่ก็ไม่ได้มีข้อมูลแน่ชัดว่าฝั่งไหนเป็นฝั่งที่เริ่มก่อนแต่จากการที่ตำรวจทำหน้าที่ได้อย่างไม่เป็นธรรมจึงทำให้เกิดกระแสมากมาย ว่าจะเป็นการวิพากษ์วิจารณ์จากสื่อต่างชาติการวิพากษ์วิจารณ์ในทวิตเตอร์และ Social ทำให้หลายกลุ่มไม่พอใจเกี่ยวกับการทำงานของเจ้าหน้าที่

และเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2563 เมื่อเวลา 21:00 นม็อบ  คณะราษฎร์ก็ได้มีการประกาศยุติการชุมนุมที่หน้ารัฐสภาโดยแกนนำผู้ชุมนุมว่าให้ยุติการชุมนุมและเราจะเจอกันใหม่ในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2563 ที่ถนนราชประสงค์ในเวลา 16:00 น ขอให้ทุกคนมารวมตัวกันเป็นการยกระดับการชุมนุม

แล้วต่อให้เจ้าหน้าที่จะมีการสลายการชุมนุมและการปฏิบัติตัวของเจ้าหน้าที่ที่ไม่เป็นธรรมก็ไม่ได้แปลว่าฝั่งกลุ่มคณะราษฏรจะเป็นฝั่งที่พ่ายแพ้ แล้วจะมีการดำเนินการการเดินทางไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และขอให้มวลชนที่ทำการเดินมาชุมนุมในวันที่ 18 พฤศจิกายนนั้นได้เตรียมอุปกรณ์ ให้พร้อมเพื่อเป็นการป้องกันตนเอง

นี่คือคำพูดของแกนนำที่ได้ขึ้นประกาศในวันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา บอกเลยว่าการชุมนุมจะไม่มีการประนีประนอมโดยเด็ดขาดส่วนการ ร่างและการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนที่ถูกรัฐบาลสกัดโจมตีนั้น ขอให้พี่น้องประชาชนทุกคนนั้นได้ดูการลงประชามติ แล้วขอให้ทุกคนมากันให้พร้อมในเวลา 16:00 น ของวันที่ 18 พฤศจิกายน เป็นการนัดหมายการชุมนุมที่มีความสำคัญเพราะฉะนั้นต้องเกาะติดสถานการณ์กันอย่างใกล้ชิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่ร้ายแรงหรือไม่ ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนปฏิบัติหน้าที่ อย่างเป็นธรรมและเป็นกลางมากที่สุดเพราะทุกคนก็คือประชาชน

ติดตามข่าวสารบ้านเมืองข่าวเด่นประเด็นร้อนและข่าวต่างประเทศมาให้คุณอัพเดททันเหตุการณ์