นักเรียนหญิงไวโอมิง รายหนึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีข้อหาไม่ยอมที่จะสวมใส่กันของหน้ากากอนามัยตามกฎของโรงเรียน หลังจากที่ก่อนหน้านี้เธอเคยถูกพักการเรียนเป็นเวลา 2 วัน
เนื่องจากไม่ยอมที่จะทำการสวมหน้ากากอนามัยมาแล้วครั้งหนึ่ง ก่อนจะกลับมาเรียนอีกครั้งเมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยครั้งนี้คาดว่า เธอจะถูกลงโทษจากการกระทำผิดด้วยการปรับเงินเกือบ ๆ 20,000 บาทเลยทีเดียว
นักเรียนหญิงไวโอมิง ลั่น ทุกคนควรมีสิทธิเลือกว่าจะใส่หน้ากากอนามัยหรือไม่!
นักเรียนหญิงไวโอมิง รายนี้มีชื่อว่า “เกรซ สมิธ” (Grace Smith) วัย 16 ปี จากโรงเรียน “ลารามี ไฮล์สคูล” (Laramie High School) เขตอัลบานี่ รัฐไวโอมิง โดยเธอถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมที่โรงเรียนเนื่องจากไม่ยอมใส่หน้ากากอนามัยตามกฎของโรงเรียน ซึ่งการกระทำครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2
ที่เธอแสดงพฤติกรรมต่อต้านการใส่หน้ากากอนามัย โดยก่อนหน้านี้เธอเคยถูกลงโทษด้วยการพักการเรียนเป็นเวลา 2 วัน เนื่องจากไม่ยอมสวมหน้ากากอนามัยมาแล้วครั้งหนึ่ง ก่อนที่เธอจะได้กลับมาเรียนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 ตุลาคม ที่ผ่านมา แต่เมื่อ สมิธ กลับมาเรียนครั้งนี้ก็ยังไม่ยอมสวมหน้ากากอนามัยอีก
จนทางโรงเรียนต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมานำตัวเธอไปยังสถานีตำรวจเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งการกระทำของเธอส่งผลให้โรงเรียนต้องสั่งล็อกดาวน์ หยุดการเรียนการสอนชั่วคราวเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค (แม้สมิธจะไม่ได้ติดเชื้อก็ตาม) ทางด้านผู้ปกครองของ สมิธ ได้ตั้งคำถามถึงมาตรการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กับเด็กสาววัย 16 ปี รายนี้ เพราะตอนที่เธอถูกพาตัวมายังสถานีตำรวจนั้น เธอถูกใส่กุญแจมือราวกับเป็นคนร้ายก่อคดีร้ายแรง แถมผู้ปกครองของเธอก็ยังไม่ได้รับการแจ้งจากทางโรงเรียน จนกระทั่งเรื่องถึงสถานีตำรวจแล้ว
ส่วนทางด้าน สมิธ เผยว่า การสวมหน้ากากอนามัยนั้น ควรเป็สิทธิเสรีภาพของทุกคนว่าจะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ การบังคับสวมหน้ากากอนามัย เท่ากับว่าเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม คาดว่านักเรียนหญิงไวโอมิง รายนี้จะถูกลงโทษจากการที่ได้มีกระทำสิ่งที่เป็นผิดครั้งนี้ด้วยการปรับเงินเกือบ 20,000 บาท เลยทีเดียว และ betclic88 เว็บเดิมพันออนไลน์ ทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจของการแทงบอล เดิมพันง่าย ได้เงินจริง มีรางวัลมากมาย ให้บริการ 24 ชั่วโมง
ติดตาม ข่าวสารบ้านเมือง ข่าวเด่นประเด็นร้อนและ ข่าวต่างประเทศ มาให้คุณอัพเดททันเหตุการณ์
