ภรรยาสหรัฐฯ รายหนึ่งได้ตัดสินใจบริจาคศพสามีวัย 98 ปี ที่เสียชีวิตจากเชื้อโควิด-19 เมื่อช่วงกลางเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา ให้กับองค์กรการศึกษาในส่วนของด้านทางการแพทย์และการที่ได้ผ่าตัดเพื่อนำไปเป็น “อาจารย์ใหญ่” แต่กลับกลายเป็นว่า
เธอมารู้ภายหลังว่าศพของสามีได้ถูกนำไปขายต่อให้กับบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งบริษัทดังกล่าวได้นำร่างของสามีเธอไปผ่าโชว์ให้คนดูในงานนิทรรศการ พร้อมทั้งเก็บเงินคนเข้าชมซะอย่างนั้น จนกลายเป็นกระแสดราม่าในโลกโซเชียลต่างประเทศ
ภรรยาสหรัฐฯ เผย ศพของสามีถูกนำไปผ่าโชว์โดยเก็บค่าตั๋ว 500 ดอลลาร์

ภรรยาสหรัฐฯ รายนี้มีชื่อว่า “เอลซี แซนเดอร์ส” (Elsie Saunders) โดยเธอได้บริจาคศพของสามี “เดวิด แซนเดอร์ส” (David Saunders) อดีตทหารผ่านศึกสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เพิ่งเสียชีวิตลงด้วยวัย 98 ปี จากการติดเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ที่ผ่านมา ให้กับองค์กร Med Ed Labs เพื่อนำไปใช้เป็น “อาจารย์ใหญ่” สำหรับศึกษาด้านการแพทย์และการผ่าตัดต่อไป ซึ่งตามปกติเมื่อทำการศึกษาวิจัยเสร็จแล้ว

ทางองค์กรก็จะต้องส่งอัฐิกลับมาให้กับครอบครัวเพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนา แต่กลับกลายเป็นว่า ร่างไร้วิญญาณของ เดวิด กลับถูกขายต่อให้กับบริษัท Death Science ซึ่งต่อมาได้ถูกนำไปจัดงานแสดงในงานที่ถือว่ามีมาในชื่อของ “นิทรรศการสิ่งแปลกประหลาด” ที่โรงแรมแมริออท (Marriott) ในเมืองพอร์ตแลนด์ (Portland) รัฐออริกอน ซึ่งในงานได้มีการนำศพของ เดวิด มาผ่าโชว์ โดยเก็บค่าเข้าชมสูงสุดที่ 500 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 16,000 บาทสำหรับบัตร VIP
แน่นอนว่า ครอบครัวแซนเดอร์ส โดยเฉพาะภรรยาอย่าง เอลซี ถึงกับช็อกกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยเธอกล่าวว่า ร่างของสามีเธอถูกนำไปผ่าเป็นชิ้นเนื้อต่อหน้าคนที่เสียเงินมาดู ซึ่งเธอรู้สึกแย่มาก และหวังว่าจะไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับครอบครัวคนอื่นอีก

ส่วนทางด้านผู้จัดการขององค์กรณ์ Med Ed Labs ได้ออกมาชี้แจ้งว่า พวกเขาไม่รู้ว่า ศพของ เดวิด จะถูกนำไปแสดงโชว์แบบนี้ และยืนยันว่าพวกเขาไม่คิดจะทำอะไรแบบนี้แน่นอน และห้ามพลาด qq288 เว็บคาสิโนออนไลน์ชื่อดังระดับโลก ฝากถอนโอนไว ปลอดภัย ให้บริการ 24 ชั่วโมง
ติดตาม ข่าวสารบ้านเมือง ข่าวเด่นประเด็นร้อนและ ข่าวต่างประเทศ มาให้คุณอัพเดททันเหตุการณ์