กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ประกาศแจ้งเตือนการระบาดของ เชื้อโคโรนาไวรัส เป็นภาวะฉุกเฉิน โดยจะทำการสั่งปิดบาร์ทั้งหมด ตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นไป หลังจากที่มีอัตราการติดเชื้อสูงอย่างต่อเนื่อง

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ประเทศฝรั่งเศสรายงานว่ามีผู้ติด เชื้อโคโรนาไวรัส จำนวน 1 หมื่นกว่าราย ทำให้เกิดการประกาศภาวะฉุกเฉินในปารีส ซึ่งการประกาศภาวะฉุกเฉินจะถูกบังคับใช้ก็ต่อเมื่อ อัตราการติดเชื้อในท้องถิ่นสูงเกินกว่า 250 ต่อ 100,000 คน หรือประมาณ 30% ขึ้นไป
มาตรการเหล่านี้ เป็นมาตรการที่เข้มงวด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัส โดยล่าสุด ผลบังคับใช้นี้ได้สั่งให้ปารีสต้องปิดบาร์ต่าง ๆ เป็นเวลานานกว่าสองสัปดาห์ ก่อนฟังประกาศจากทางรัฐบาลฝรั่งเศสอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ร้านอาหารที่ให้บริการอาหารและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยังสามารถเปิดให้บริการได้ แต่ต้องมีการเก็บข้อมูลเกี่ยวลูกค้าที่เข้าใช้บริการ และจะต้องปิดร้านอาหารเวลา 4 ทุ่มเท่านั้น

เจอรัลด์ดาร์มานิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของฝรั่งเศส ออกมายอมรับว่า การปิดบาร์ ค่อนข้างเป็นเรื่องยากสำหรับประชาชนชาวฝรั่งเศส โดยเฉพาะชาวปารีส เพราะวิถีชีวิตของพวกเขาอยู่กับการดื่มเป็นหลัก แต่หากไม่มีมาตราเข้มงวด ก็เป็นไปได้ว่าการระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัสอาจจะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2563 บางเมืองของฝรั่งเศส ได้ทำการปิดบาร์ ร้านอาหารและโรงยิมทั้งหมดเป็นเวลาสองสัปดาห์ รวมทั้งสถานที่สาธารณะ โรงละคร พิพิธภัณฑ์และโรงภาพยนตร์
ขณะนี้ ประเทศฝรั่งเศสกำลังพยายามอย่างมากที่จะควบคุมอัตราการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น เพราะ การติดเชื้อโคโรนาไวรัสในฝรั่งเศสที่ผ่านมา มีการเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณในช่วงเดือนสิงหาคม และในวันเสาร์ที่ผ่านมามีรายงานการติดเชื้อโคโรนาไวรัสเกือบ 2 หมื่นคน ซึ่งเป็นอัตราสูงสุดนับตั้งแต่ประเทศฝรั่งเศสเริ่มมีการตรวจสอบเชื้อโคโรนาไวรัส ทั้งนี้ รัฐบาลฝรั่งเศส ไม่ต้องการจะปิดประเทศลงอีกครั้ง แต่จะมีการบังคับใช้มาตรการที่เข้มงวดแทน เพื่อควบคุมการระบาดและไม่กระทบต่อประชาชนในประเทศ

ในขณะเดียวกัน สาธารณรัฐเช็ก ก็อาจะมีการประกาศภาวะฉุกเฉิน เช่นเดียวกับปารีส คือเริ่มบังคับใช้ในวันจันทร์และมีผลนานสองสัปดาห์ เพื่อควบคุมการกระจายของเชื้อโคโรนาไวรัส รวมถึงการปิดโรงเรียนมัธยมศึกษาและจำกัดให้ร้านอาหารและบาร์ไว้ รับลูกค้าได้เพียง 6 คนต่อโต๊ะเท่านั้น
ส่วนในกรุงมาดริดเมืองหลวงของสเปน ก็ได้มีการปิดเมือง โดยมีผู้คนสามล้านคนเท่านั้นที่สามารถเดินทางออกข้างนอกและแวกใกล้เคียงเพื่อธุระสำคัญ ส่วนบาร์และร้านอาหารไม่สามารถให้บริการหลังเวลา 4 ทุ่มเป็นต้นไป และไม่สามารถรวมกันเป็นกลุ่มใหญ่กว่า 6 คนได้ ซึ่งอัตราการติดเชื้อในมาดริดตอนนี้ อยู่ที่ประมาณ 700 กว่าราย ต่อประชาชนหนึ่งแสนคน เป็นประเทศที่มีคนติดเชื้อโคโรนาไวรัสสูงที่สุดในยุโรป
ติดตามข่าวสารต่างๆที่น่าสนใจได้ที่นี่